คาราบาว | ||
---|---|---|
![]() | ||
เกิดที่ | ประเทศไทย | |
แนวเพลง | ร็อก, เพื่อชีวิต | |
ปี | พ.ศ. 2524 - ปัจจุบัน | |
ค่าย | พีค็อก, อโซน่า, แกรมมี่ ,แว่วหวาน, วอร์นเนอร์ มิวสิก ประเทศไทย, ดีเดย์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, กระบือแอนด์โค, มองโกล | |
เว็บไซต์ | http://www.carabao.net | |
ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) ร้องนำ,ประสานเสียง,กีตาร์ ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) ร้องนำ,ประสานเสียง,ลีดกีต้าร์ เทียรี่ เมฆวัฒนา (รี่) ร้องนำ,ประสานเสียง,กีต้าร์ เกริกกำพล ประถมปัทมะ (อ๊อด) เบส ประสานเสียง ลือชัย งามสม (ดุก) คีย์บอร์ด ประสานเสียง ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ (หมี) กีตาร์ แมนโดลิน ประสานเสียง ชูชาติ หนูด้วง (โก้) กลอง,เพอร์คัสชั่น ธนะสิทธิ์ พันธุ์พงษ์ไทย (อ้วน) ขลุ่ย, กลอง,เพอร์คัสชั่น แซ็กโซโฟน ประสานเสียง | ||
สานิตย์ ลิ่มศิลา (ไข่) กีต้าร์ กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว) ร้องนำ,คีย์บอร์ด,ประสานเสียง,กีตาร์ ไพรัช เพิ่มฉลาด (รัช) เบส † อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ขลุ่ย,คีย์บอร์ด,แซ็กโซโฟน อำนาจ ลูกจันทร์ (เป้า) กลอง,เพอร์คัสชั่น ศยาพร สิงห์ทอง (น้อง) เพอร์คัสชั่น, ประสานเสียง |
เนื้อหา
[ซ่อน]ประวัติ[แก้]
ก่อตั้ง[แก้]
วงคาราบาวเกิดจากการก่อตั้งโดยนักเรียนไทยที่ฟิลิปปินส์ 3 คน คือ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) กับ กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว) และ สานิตย์ ลิ่มศิลา (ไข่) ขึ้นที่นั่น ในปี พ.ศ. 2523 โดยคำว่า "คาราบาว" เป็นภาษาตากาล็อก คือภาษาพื้นเมืองของฟิลิปปินส์ แปลว่า "ควาย" ซึ่งทางฟิลิปปินส์ถือเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นเกษตร โดยหมายจะเป็นวงดนตรีที่มีเนื้อหาเพื่อชีวิตที่ฟิลิปปินส์ แอ้ดได้พบกับเพื่อนคนไทยที่ไปเรียนหนังสือที่นั้น คือ สานิตย์ ลิ่มศิลา ( ไข่) และ กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร ( เขียว) ซึ่งยืนยงได้มีโอกาสฟังเพลงของ เลด เซพเพลิน ,จอห์น เดนเวอร์ ,ดิ อีเกิ้ลส์ และปีเตอร์ แฟลมตัน จากแผ่นเสียงที่ ไข่ สานิตย์ ลิ่มศิลา สะสมไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมา ทั้ง 3 จึงร่วมกันตั้งวงดนตรีขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คาราบาว" เพื่อใช้ในการแสดงบนเวทีในงานของมหาวิทยาลัย โดยเล่นดนตรีโฟล์คในเนื้อหาที่สะท้อนสภาพปัญหาและความเป็นจริงของสังคม
เมื่อกลับมาเมืองไทย แอ๊ดและเขียวได้ร่วมกันเล่นดนตรีในเวลากลางคืน โดยกลางวันแอ๊ดทำงานอยู่ที่การเคหะแห่งชาติ เขียวทำให้กับบริษัทฟิลิปปินส์ที่มาเปิดในประเทศไทย ส่วนไข่ก็ได้แยกตัวออกไป ทั้งคู่ออกอัลบั้มชุดแรกของวง ในชื่อ "ขี้เมา" เมื่อปี พ.ศ. 2524 ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จนัก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ได้มีสมาชิกในวงเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน คือ ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) จากวงเพรซซิเด้นท์ และออกอัลบั้มเป็นชุดที่ 2 ในชื่อ "แป๊ะขายขวด" ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอีก
รุ่งเรือง[แก้]
คาราบาว เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในอัลบั้มชุดที่ 3 ในปี พ.ศ. 2526 จากอัลบั้ม "วณิพก" ด้วยเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม โดยมีเนื้อหาที่แปลกแผกไปจากเพลงในยุคนั้น ๆ และดนตรีที่เป็นท่วงทำนองแบบไทย ๆ ผสมกับตะวันตก มีจังหวะที่สนุกสนาน ชวนให้รู้สึกคึกคัก เต้นรำได้คาราบาวประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในปลายปี พ.ศ. 2527 เมื่อออกอัลบั้มชื่อว่า "เมดอินไทยแลนด์" เป็นอัลบั้มชุดที่ 5 ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 5 ล้านตลับ ซึ่งเป็นสถิติยอดจำหน่ายอัลบั้มเพลงของศิลปินไทยที่สูงที่สุดของไทยไม่มีใครทำลายได้มาจนปัจจุบัน และเมื่อจัดคอนเสิร์ตใหญ่ ก็มียอดผู้ชมถึง 6 หมื่นคน
โดย คาราบาว ในยุคนั้นเรียกว่ายุคคลาสสิก มีสมาชิกในวงทั้งสิ้น 7 คน ประกอบด้วย
- ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) : ร้องนำ กีตาร์ แต่งเพลงและดนตรี หัวหน้าวง
- ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) : ร้องนำ กีตาร์ แต่งเพลงและดนตรีบางส่วน
- เทียรี่ เมฆวัฒนา (รี่) : ร้องนำ กีตาร์
- กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว) : ร้องนำบางส่วนและประสานเสียง กีตาร์ ควบคุมการผลิต
- เกริกกำพล ประถมปัทมะ (อ๊อด) : เบส
- อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี (ธนิสร์) : ขลุ่ย ร้องนำบางส่วนและประสานเสียง แซกโซโฟน คีย์บอร์ด
- อำนาจ ลูกจันทร์ (เป้า) : กลอง,เพอร์คัสชั่น
- เป็นศิลปินกลุ่มแรกของไทยที่มีโฆษณาลงในปกอัลบั้มและได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ในสังคม
- การแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวง ที่ชื่อ "ทำโดยคนไทย" ในปี พ.ศ. 2528 นับเป็นคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ครั้งแรกของไทย และเป็นครั้งแรกด้วยที่มีการแสดงดนตรีในเวทีกลางแจ้ง
- อัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์ แม้จะไม่มีมิวสิกวีดีโอ แต่เมื่อเพลงได้ถูกเผยแพร่ออกไป และได้รับความนิยม ทางรัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในเนื้อหา จึงได้จัดทำมิวสิกวีดีโอขึ้นมาต่างหาก เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยใช้ของไทย
- เพลงบางเพลงที่มีเนื้อหาส่อเสียด มักจะถูกสั่งห้ามเผยแพร่ออกอากาศเสมอ ๆ ในแต่ละอัลบั้ม
แยกย้ายและในปัจจุบัน[แก้]
ในปี พ.ศ. 2533 สมาชิกในวง 4 คน คือ เขียว เทียรี่ อ.ธนิสร์ และเป้า ได้แยกตัวเป็นอิสระออกไป และทางวงก็ได้รับสมาชิกเพิ่มมา มาแทนที่ตำแหน่งที่ออกไป และยังคงออกอัลบั้มต่อมา และเทียรี่ที่แยกตัวออกไป ก็ได้กลับมาร่วมวงอีกครั้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 คาราบาวก็ได้ออกอัลบั้มชุดพิเศษ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของสมาชิกชุดเดิม 7 คน ในชื่อชุด "15 ปี คาราบาว หากหัวใจยังรักควาย" โดยออกมาถึง 2 ชุด ด้วยกันจนถึงปัจจุบันนี้ คาราบาวมีอัลบั้มทั้งสิ้น 26 ชุด ไม่นับรวมถึงอัลบั้มพิเศษของทางวงหรือของสมาชิกในวง หรือบทเพลงในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากนับรวมกันแล้วคงมีไม่ต่ำกว่า 100 ชุด มีเพลงไม่ต่ำกว่า 1,000 เพลง เป็นวงดนตรีที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดทั้งในวงการดนตรีทั่วไปและวงการเพลงเพื่อชีวิต เป็นที่รู้จักของผู้คนในสังคมทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ฟังเพลง หรือผู้ที่นิยมในเพลงเพื่อชีวิตเท่านั้น จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "ตำนานเพลงเพื่อชีวิต"
ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2553 มีกระแสข่าวออกมาว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของคาราบาว เพื่อผลประโยชน์ด้านการเมือง และเพื่อให้การบริหารจัดการในวงมีความคล่องตัวมากขึ้น แต่นายวินิจ เลิศรัตนชัย ผู้บริหารบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ในฐานะผู้จัดมหกรรมดนตรี 30 ปี คาราบาว ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีของคาราบาวในวาระครบรอบ 30 ปีของวง ซึ่งจะแสดงเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2554 ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว[2][3]
สมาชิกปัจจุบัน[แก้]
- ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) : หัวหน้าวง, ร้องนำ, กีตาร์, แต่งเพลงและดนตรี
- ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) : ร้องนำ, กีตาร์, แต่งเพลงและดนตรีบางส่วน, ประสานเสียง
- เทียรี่ เมฆวัฒนา (รี่) : ร้องนำ, กีตาร์, ประสานเสียง
- เกริกกำพล ประถมปัทมะ (อ๊อด) : เบส, ประสานเสียง
- ลือชัย งามสม (ดุก) : คีย์บอร์ด, แตร, แอกคอร์เดียน, ร้องนำบางส่วน, ประสานเสียง
- ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ (หมี) : กีตาร์, ประสานเสียง
- ชูชาติ หนูด้วง (โก้) : กลอง
- ธนะสิทธิ์ พันธุ์พงษ์ไทย (อ้วน) : ขลุ่ย, กลอง, ประสานเสียง
อดีตสมาชิก[แก้]
- สานิตย์ ลิ่มศิลา (ไข่) : ร่วมก่อตั้งวงแต่ไม่ได้ออกอัลบั้ม
- ไพรัช เพิ่มฉลาด (รัช) : เบส (พ.ศ. 2526 - 2527) (เสียชีวิต)
- ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี : คีย์บอร์ด,แซกโซโฟน,ขลุ่ย,ร้อง (พ.ศ. 2526 - 2532,พ.ศ. 2538-2539,พ.ศ. 2554-2555 (ร่วมวงอีกครั้งในโอกาสครบรอบ30ปีคาราบาว))
- อำนาจ ลูกจันทร์ : กลอง,เพอร์คัสชั่น (พ.ศ. 2526 - 2532, พ.ศ. 2538-2539)
- กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร : กีตาร์,ร้องนำ (พ.ศ. 2524 - 2534 ,พ.ศ. 2538-2539 ,2541,2550)
ผลงานอัลบั้มของคาราบาว[แก้]
เฉพาะอัลบั้มภาคปกติของวงคาราบาว มีดังนี้พ.ศ. 2524-2529[แก้]
- ขี้เมา (พ.ศ. 2524)
- แป๊ะขายขวด (พ.ศ. 2525)
- วณิพก (พ.ศ. 2526)
- ท.ทหารอดทน (พ.ศ. 2526)
- เมด อิน ไทยแลนด์ (พ.ศ. 2527)
- อเมริโกย (พ.ศ. 2528)
- ประชาธิปไตย (พ.ศ. 2529)
พ.ศ. 2530-2538[แก้]
- เวลคัม ทู ไทยแลนด์ (พ.ศ. 2530)
- ทับหลัง (พ.ศ. 2531)
- ห้ามจอดควาย (พ.ศ. 2533)
- วิชาแพะ (พ.ศ. 2534)
- สัจจะ ๑๐ ประการ (พ.ศ. 2535)
- ช้างไห้ (พ.ศ. 2536)
- รุ่นคนสร้างชาติ (พ.ศ. 2537)
- แจกกล้วย (พ.ศ. 2538)
- 15 ปี คาราบาว หากหัวใจยังรักควาย (พ.ศ. 2538)
พ.ศ. 2540-ปัจจุบัน[แก้]
- เส้นทางสายปลาแดก (พ.ศ. 2540)
- เช' ยังไม่ตาย (พ.ศ. 2540)
- อเมริกันอันธพาล (พ.ศ. 2541)
- พออยู่พอกิน (พ.ศ. 2541)
- เซียมหล่อตือ (พ.ศ. 2543)
- สาวเบียร์ช้าง (พ.ศ. 2544)
- นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ (พ.ศ. 2545)
- สามัคคีประเทศไทย (พ.ศ. 2548)
- ลูกลุงขี้เมา (พ.ศ. 2550)
- โฮะ (พ.ศ. 2552)
- กำลังใจคาราบาว 30 ปี (พ.ศ. 2554)
- สวัสดีประเทศไทย (พ.ศ. 2556)
คอนเสิร์ตครั้งสำคัญ[แก้]
- ทำโดยคนไทย : 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่ เวโลโดรม สนามกีฬาหัวหมาก
- คอนเสิร์ตรับใช้ชาติ : 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 ที่ สวนสยาม
- คอนเสิร์ตสายธารสู่อีสานเขียว : 27 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ที่ สนามกีฬากองทัพบก
- 10 ปี ฅนคาราบาว : 25 พฤษภาคม - 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ที่ เอ็มบีเค ฮอลล์ มาบุญครอง เซนเตอร์
- คอนเสิร์ตปิดทองหลังพระ : 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 ที่ อินดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก
- 15 ปี เมด อิน ไทยแลนด์ : 25 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
- 20 ปี คาราบาว เรื่องราวของคน ดนตรี และเขาควาย : 21 กุมภาพันธ์ - 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
- เมด อิน ไทยแลนด์ ภาค 2546 สังคายนา : 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- นาวาคาราบาว : 30 เมษายน พ.ศ. 2548 ที่ หอประชุมกองทัพเรือ
- คอนเสิร์ตบาว-ปาน แฟนบาวได้หวาน แฟนปานได้โจ๊ะ : 5 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
- คอนเสิร์ต 25 ปี มนต์เพลงคาราบาว : 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- เราจะเป็นคนดี : 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ที่ อินดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก
- 25 ปี คาราบาว : คอนเสิร์ต บาวเบญจเพส : 1 ธันวาคม - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- เดอะ ไดอารี่ ออฟ คาราบาว คอนเสิร์ต : 12 มกราคม พ.ศ. 2551 ที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ (เลื่อนไปแสดงเป็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 แทน)
- Road to Country Carabao & Friend : 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่ โบนันซ่า เขาใหญ่
- คาราบาว 3 ช่า สามัคคี ตอนลูกทุ่งแฟนเทเชีย : 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- คอนเสิร์ตเพลงคนดนตรีโลก คาราบาว-ขุนอิน : 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ที่ โรงละครสำนักพิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ปันดาวคืนดิน : 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บาว-ปาน บิ๊กแมตช์คอนเสิร์ต : 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 ที่ ยามาฮ่า สเตเดี้ยม เมืองทองธานี
- คาราบาว ข้าวตราฉัตร จากแรง.. เป็นรวง..เป็นเรา : 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
- คาราบาว เวโลโดรม รีเทิร์น คอนเสิร์ต : 19 มีนาคม - 20 มีนาคม พ.ศ. 2554 ที่ เวโลโดรม สนามกีฬาหัวหมาก
- คาราบาว นิว เยียร์ เอกซ์โป : 21 ธันวาคม - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (เลื่อนมาจากกำหนดเดิม คือเดือนพฤศจิกายน เหตุเพราะน้ำท่วม)
- คาราบาว ไฟนอล ฟินาเล : 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ที่ สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต (เลื่อนมาจากกำหนดเดิม คือวันที่ 3 มิถุนายน และ 29 กรกฎาคม 2555)
เบ็ดเตล็ด[แก้]
- คาราบาว เป็นวงดนตรีของเอเชียวงแรกที่มีรูปขึ้นบนไฟแช็กซิปโป้เหมือนศิลปินที่มีชื่อเสียงวงอื่น ๆ ของต่างประเทศ
- คาราบาว ได้รับฉายาจากชาวต่างประเทศว่าเป็น "โรลลิ่ง สโตนเมืองไทย"
- เทปแรกของรายการแฟนพันธุ์แท้ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2543 คือตอน คาราบาว และจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ได้จัดในตอนคาราบาวมาแล้วถึง 2 ครั้ง
- อัลบั้มทุกชุด จะมีข้อเขียนในลักษณะความในใจของแอ๊ด หัวหน้าวง เสมอ ๆ นับเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของคาราบาว
- ในปี พ.ศ. 2529 มีการสร้างภาพยนตร์ของทางวงออกมา ชื่อ เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ เขียนบทโดย แอ๊ด นำแสดงโดย สมาชิกของวงทั้งหมด และนักแสดงรับเชิญ ปัจจุบัน ได้มีการทำเป็นวีซีดีออกมาจำหน่าย
- ประมาณปี พ.ศ. 2545 สมาชิกคาราบาวได้ตัดสินใจรวบรวมเพลงที่โดนสั่งห้ามเผยแพร่ ห้ามออกอากาศมารวบรวมเป็นชุดโดยใช้ชื่อชุดว่า " ห้ามออกอากาศ " เป็นการรวบรวมเพลงในยุคแรกที่โดนแบน โดยให้ทาง MGA จัดจำหน่าย ต้นสังกัดคือบริษัท โคแอนด์กระบือ
- ในปี พ.ศ. 2548 บริษัท อาร์เอส และ วอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ ได้ทำอัลบั้มชุดพิเศษ โดยวงคาราบาว และ ปาน-ธนพร แวกประยูร ในชื่ออัลบั้ม "หนุ่มบาว-สาวปาน" โดยเป็นอัลบั้มที่ทำขึ้นเฉพาะกิจระหว่าง 2 สุดยอดนักร้องคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วประเทศ
- ในปี พ.ศ. 2552 คาราบาว และ ปาน ได้ออกอัลบั้มอีกหนึ่งชุด คือ "บาวปานรีเทิร์น" เป็นการปิดฉากของโปรเจ็กต์หนุ่มบาว-สาวปาน
- ในปี พ.ศ. 2556 เดือนพฤษภาคม - มิถุนายนทาง บริษัท วอร์นเนอร์ มิวสิค (ประเทศไทย)จำกัด ได้ร่วมมือกับ Seven Eleven และ Book Smlie ในการแจก Carabao MP3 Collection ซึ่งใน Mp3 จะเป็นเพลงสมัยแรกของวง
- ชื่อ คาราบาว ที่ต่อท้ายชื่อเล่นของบุคคล ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักร้อง นักดนตรีในวงเท่านั้น แต่ในบางครั้งจะใช้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเคยร่วมงานกับวงด้วย เช่น นก คาราบาว (นักร้องประสานเสียงหญิง) ป๋อง คาราบาว (ผู้จัดการวง) เป็นต้น
- คาราบาว ได้ชื่อว่าเป็นวงที่ไม่มีสังกัดที่แน่นอน และในการออกอัลบั้มแต่ละชุด จะทำงานกับสังกัดหรือค่ายเพลงเป็นการเฉพาะไป เช่น อัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์ ที่สร้างชื่อให้ในปี พ.ศ. 2527 แม้ไม่ได้มีสังกัดที่แน่นอน แต่ก็มีแกรมมี่สนับสนุนอยู่ มีเพียงในระยะหลัง ๆ ได้สังกัดกับวอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ แต่ทางวงเคยตั้งบริษัทเพื่อดูแลผลประโยชน์ของวงขึ้นมา ในชื่อ กระบือ แอนด์ โค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น